คำถามที่พบบ่อย

Pipedrive เป็นแพลตฟอร์มการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ที่ช่วยให้ธุรกิจได้รับลีดการขายใหม่ๆ และสร้างความสัมพันธ์กับลีด เพื่อผลักดันยอดขายให้มากขึ้น

ได้ ผู้ใช้ที่สามารถเข้าถึงประวัติการเรียกเก็บเงินที่ผ่านมาจะสามารถกู้คืนการเข้าใช้งานบัญชี Pipedrive ที่ปิดไปแล้วได้ ซึ่งสามารถทำได้โดยการล็อกอินเข้าสู่ Pipedrive ด้วยข้อมูลที่ลิงก์กับบัญชีที่ปิดและป้อนข้อมูลการเรียกเก็บเงินใหม่ โปรดทราบว่าการกู้คืนบัญชีในกรณีดังกล่าวจะทำได้ก็ต่อเมื่อข้อมูลของคุณยังอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ Pipedrive เท่านั้น

หากคุณไม่สามารถเข้าถึงการเรียกเก็บเงินและต้องการเปิดใช้งานบัญชีของคุณอีกครั้ง คุณต้องติดต่อแอดมินบัญชีหรือผู้ใช้รายอื่นที่มีสิทธิ์เข้าถึงประวัติการเรียกเก็บเงิน

หากต้องการความช่วยเหลือในการเข้าถึงบัญชี คุณสามารถติดต่อฝ่ายช่วยเหลือที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องนี้

อาจมีสาเหตุหลายประการที่ทำให้การสร้างบัญชี Pipedrive ทำงานไม่ถูกต้อง ก่อนอื่นตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ป้อนทั้งหมดถูกต้อง และดูว่ามีข้อผิดพลาดของการตรวจสอบยืนยันหรือไม่ ในกรณีที่คุณระบุข้อมูลทุกอย่างถูกต้อง แนะนำให้ปฏิบัติตามคู่มือการแก้ปัญหาทั่วไป เพื่อแก้ไขปัญหาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับแคชหรือเบราว์เซอร์ หากคุณยังคงไม่สามารถสร้างบัญชี Pipedrive ใหม่ได้ โปรดติดต่อฝ่ายช่วยเหลือเพื่อขอความช่วยเหลือ

ในกรณีที่ประสบปัญหากับการสร้างบัญชี Pipedrive ให้ตรวจสอบรายละเอียดในแบบฟอร์มลงทะเบียนเพื่อดูข้อความแสดงข้อผิดพลาด หากคุณยังคงไม่สามารถสร้างบัญชี Pipedrive ใหม่ได้ โปรดติดต่อฝ่ายช่วยเหลือเพื่อขอความช่วยเหลือ

การเชิญเพื่อนร่วมงานมาที่ Pipedrive ทำได้ง่ายมาก! ดูคำแนะนำอย่างละเอียดได้ที่ฐานความรู้ของเราเกี่ยวกับวิธีเพิ่มและเชิญผู้ใช้ใหม่เข้าสู่บัญชีของคุณ

สิทธิ์อนุญาตใน Pipedrive แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ ดีล ทั่วไป และการตั้งค่าบัญชี หากเปิดใช้งานส่วนเสริมจะมีสิทธิ์อนุญาตอีก 2 แบบที่เกี่ยวกับ Campaigns และ Projects ซึ่งประเภทสิทธิ์อนุญาตเหล่านี้จะมีระดับสิทธิ์ 2 ระดับที่สามารถมอบให้กับผู้ใช้ได้

แอดมิน - สิทธิ์อนุญาตของแอดมินจะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดในประเภทนั้นได้ (ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นแอดมินดีล คุณจะสามารถเข้าถึงดีลทั้งหมดในบัญชีของคุณ)

แอดมินที่มีสิทธิ์เข้าถึงการตั้งค่าบัญชีสามารถจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงของแอดมิน หรือเปลี่ยนสถานะการให้สิทธิ์อนุญาตได้

ผู้ใช้ทั่วไป - สิทธิ์อนุญาตที่ได้รับและข้อจำกัดการมองเห็นทั้งหมดจะถูกกำหนดโดยแอดมินบัญชี ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูล และทำสิ่งต่างๆ ได้ตามค่าเริ่มต้น แต่แอดมินสามารถทำการเปลี่ยนแปลงได้

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการผู้ใช้ได้ที่บทความในฐานความรู้

ในกรณีที่คุณมีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี Pipedrive ของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านได้ในการตั้งค่า หากคุณกำลังพยายามล็อกอินแต่จำรหัสผ่านสำหรับการล็อกอินไม่ได้ ให้คลิกตัวเลือก "ลืมรหัสผ่านหรือไม่" ในช่องรหัสผ่านและทำตามขั้นตอน อ่านคำแนะนำเกี่ยวกับการเปลี่ยนรหัสผ่าน หรือรีเซ็ตรหัสผ่าน Pipedrive ได้ที่ฐานความรู้

คุณสามารถแก้ไขข้อมูลส่วนตัวได้ที่การตั้งค่าบัญชี รวมถึงที่อยู่อีเมลและรหัสผ่านที่ใช้ในการเข้าถึง Pipedrive

หากต้องการอัปเดตข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ให้ไปที่การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงิน และอัปเดตข้อมูลการเรียกเก็บเงินของคุณ

Pipedrive นำเสนอฟีเจอร์ความปลอดภัยหลายอย่างที่ให้ความโปร่งใสอย่างชัดเจนว่ามีการเข้าถึงข้อมูลของคุณเมื่อไรและอย่างไร

- ฟีเจอร์การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอนจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอีกชั้น เพื่อยืนยันว่าผู้ใช้ที่พยายามล็อกอินเข้าสู่ Pipedrive เป็นบุคคลที่ถูกต้อง

- การลงชื่อเข้าระบบครั้งเดียว (SSO) ของ Pipedrive ช่วยให้สามารถเพิ่ม Pipedrive ไปยังผู้ให้บริการ SSO ที่บริษัทของคุณตั้งค่าไว้ ฟีเจอร์นี้ทำให้มั่นใจว่าการล็อกอินเข้าสู่ Pipedrive เป็นไปอย่างราบรื่นและไร้กังวล และแอดมินที่ดูแลบัญชีจะควบคุมการเข้าถึงของผู้ใช้ได้มากขึ้น

- ฟีเจอร์แดชบอร์ดความปลอดภัยจะให้ภาพรวมที่สมบูรณ์สำหรับข้อมูลการเข้าถึงของผู้ใช้และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในบัญชีบริษัทของคุณ

- ฟีเจอร์กฎความปลอดภัยจะทำให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงการตั้งค่าบัญชีสามารถบังคับใช้ข้อจำกัดการเข้าถึงได้ ข้อจำกัดเหล่านี้ช่วยให้แน่ใจว่าข้อมูลธุรกิจจะเข้าถึงได้เฉพาะบุคคลที่มีสิทธิ์อย่างถูกต้อง ในสถานที่และเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

- ฟีเจอร์แจ้งเตือนความปลอดภัยช่วยให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงการตั้งค่าบัญชีสามารถกำหนดค่าการแจ้งเตือนทางอีเมลที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ผู้ใช้เหล่านี้สามารถส่งการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ หรือส่งการแจ้งเตือนตามช่วงเวลาปกติเป็นรายวัน หรือรายสัปดาห์

อ่านข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับฟีเจอร์ความปลอดภัยได้ที่ฐานความรู้

ข้อกำหนดการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวของเราได้รับการอัปเดตอยู่เป็นประจำเพื่อปรับปรุงความโปร่งใส และรับรองว่าเอกสารจะเป็นไปตามข้อกำหนดในการปกป้องข้อมูล เนื่องจากเอกสารเหล่านี้เป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคุณ ดังนั้นจึงต้องมีการอธิบายความรับผิดชอบของเราและสิทธิ์ของคุณอย่างครอบคลุมและโปร่งใส หากคุณอาศัยอยู่ในสหภาพยุโรปและต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ โปรดอ่านบทความเรื่อง Pipedrive และ GDPR ที่ฐานความรู้ของเรา

เมื่อคุณปิดบัญชี Pipedrive แบบชำระเงิน Pipedrive จะทำการลบบัญชีและข้อมูลในบัญชีออกอย่างถาวรภายในเวลาหกเดือนนับจากวันที่ปิด อย่างไรก็ตาม นโยบายการเก็บรักษาข้อมูลของเรากำหนดไว้ว่า บัญชีทดลองใช้งานจะถูกลบภายใน 30 วันหลังจากปิดบัญชี

แนะนำให้ล็อกเอาต์ออกจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อรักษาข้อมูล และรายละเอียดของคุณให้ปลอดภัย

หากต้องการเข้าถึงรายการอุปกรณ์ที่ใช้งาน ให้ไปที่ การตั้งค่า > อุปกรณ์ของคุณ > อุปกรณ์ที่ใช้งาน ในบัญชี Pipedrive แล้วคลิกปุ่ม "ล็อกเอาต์" ที่อยู่ถัดจากอุปกรณ์ที่ต้องการยกเลิกการเชื่อมต่อ

คุณสามารถเปลี่ยนที่อยู่อีเมลที่ใช้ล็อกอินได้อย่างง่ายดายที่แท็บการตั้งค่าในแอป Pipedrive

1. ไปที่ การตั้งค่า > การกำหนดค่าส่วนบุคคล > บัญชี > ทั่วไป
2. ค้นหาฟิลด์อีเมลแล้วคลิก "แก้ไข"
3. แก้ไขที่อยู่อีเมลที่ใช้ล็อกอินในฟิลด์ดังกล่าว
4. คลิกที่ "บันทึก"

Pipedrive มาร์เก็ตเพลส มีแอปและการผสานรวมหลายร้อยรายการที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขาย หากคุณเป็นนักพัฒนาและต้องการสร้างแอปที่กำหนดเอง คุณสามารถลงทะเบียนเพื่อรับพื้นที่นักพัฒนา

คุณสามารถถอนการติดตั้งเพื่อลบแอปที่ผสานรวมกับ Pipedrive ซึ่งสามารถทำได้โดยไปที่บัญชี Pipedrive ของคุณแล้วคลิก การตั้งค่า > เครื่องมือและแอป > แอปในมาร์เก็ตเพลส เพื่อค้นหารายการแอปที่ติดตั้ง จากนั้นคลิกเมนูสามจุดที่อยู่ถัดจากแอปที่ต้องการลบออก และคลิกที่ "ถอนการติดตั้ง"

Pipedrive มาร์เก็ตเพลสมีแอปและการผสานรวมที่เป็นประโยชน์หลายร้อยรายการ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีแอปที่ต้องการ คุณสามารถผสานรวมแอปที่ใช้งานเข้ากับ Pipedrive ได้ 3 วิธี ดังต่อไปนี้

1. ตรวจสอบแอป Zapier เพื่อดูว่าสามารถใช้ Zapier เชื่อมต่อแอปของคุณกับ Pipedrive ได้หรือไม่
2. ขอให้พาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างแอป หรือทีมไอทีในบริษัทของคุณสร้างการผสานรวมเพื่อเชื่อมต่อ Pipedrive กับแอปที่คุณต้องการ
3. ติดต่อทีมช่วยเหลือของเราและแจ้งชื่อแอปที่คุณใช้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มแอปลงในมาร์เก็ตเพลส

คุณสามารถสร้างแอป Pipedrive ผ่านพื้นที่นักพัฒนา เริ่มต้นได้ง่ายมาก! ทำตามขั้นตอนสั้นๆ ต่อไปนี้

1. ลงทะเบียนบัญชีแซนด์บ็อกซ์เพื่อเริ่มต้นสร้างแอป
2. ไปที่ข้อมูลอ้างอิง API และดูรายละเอียดเกี่ยวกับเอนพอยต์สาธารณะทั้งหมดของเรา รวมถึงคอลเลกชัน Postman API
3. เรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดหลักของ API ส่วนขยายแอป การตรวจสอบสิทธิ์ และอื่นๆ ในเอกสารสำหรับนักพัฒนา
4. ดูเคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีสร้างแอปให้ดีที่สุดได้ในบทช่วยสอน
5. อ่านกรณีการใช้งานเพื่อดูสิ่งที่ลูกค้า Pipedrive ต้องการจากแอป
6. ตรวจสอบบันทึกการเปลี่ยนแปลงเพื่อดูการอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนักพัฒนาของเรา
7. รับความช่วยเหลือจากคอมมูนิตี้นักพัฒนาของเราที่จะช่วยตอบคำถามอื่นๆ ของคุณ

หากแอปที่ต้องการใช้ไม่มีอยู่ใน Pipedrive มาร์เก็ตเพลส คุณสามารถเลือกดำเนินการดังต่อไปนี้

1. ตรวจสอบแอป Zapier เพื่อดูว่าสามารถใช้ Zapier เชื่อมต่อแอปของคุณกับ Pipedrive ได้หรือไม่
2. ขอให้พาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างแอป หรือทีมไอทีในบริษัทของคุณสร้างการผสานรวมเพื่อเชื่อมต่อ Pipedrive กับแอปที่คุณต้องการ
3. ส่งคำขอไปยังทีมช่วยเหลือของเราและแจ้งชื่อแอปที่ใช้ แล้วเราจะพยายามเพิ่มแอปที่คุณต้องการลงในมาร์เก็ตเพลส

ใช่ เรามี! Pipedrive ใช้ RESTful API ที่มีอยู่ในทุกแผน ดูรายละเอียดเกี่ยวกับเอนพอยต์สาธารณะทั้งหมดของเราได้ที่ข้อมูลอ้างอิง API รวมถึงคอลเลกชัน Postman API

หากต้องการใช้ API ของ Pipedrive คุณต้อง รับโทเค็น API ส่วนบุคคลของคุณจากแอป Pipedrive ด้วยตนเอง

คุณสามารถไปที่แดชบอร์ดศูนย์ความปลอดภัยในการตั้งค่าบริษัท แดชบอร์ดนี้จะแสดงให้เห็นว่าใครล็อกอินบัญชีของคุณ ล็อกอินเมื่อไร และใช้อุปกรณ์ใด

คำถามที่พบบ่อย

เข้าร่วมกับบริษัทกว่า 100,000 แห่ง